บาเยิร์นยังไม่ลืมความพ่ายแพ้ต่อแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อปี 1999
“ผมเชื่อว่าบาเยิร์นจะผ่านเข้ารอบ แต่เราจำเป็นต้องเล่นอย่างจริงจังในแต่ละนัด บาเยิร์นเจอกับแมนฯ ยูไนเต็ดที่น่าสนใจหลายครั้ง ทุกคนจำเกมนั้นในปี 1999 โคเปนเฮเกนเพิ่งคว้าแชมป์สองสมัยที่เดนมาร์ก พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง” บรรยากาศที่กาลาตาซารายนั้นพิเศษเสมอ นัดต่อไปของพวกเขาที่มิวนิคก็คุ้มค่ากับการรอคอย” จุงกล่าวในหน้าแรกของบาเยิร์นหลังประกาศผลการจับสลาก
บาเยิร์น และ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในกลุ่ม A ทั้งคู่ ตามผลการจับสลากเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค. ถือเป็นแมตช์ที่มีชะตากรรมมากมายในฟุตบอลยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โด่งดังที่สุดคือนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 1998-1999 ที่บาเยิร์นขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่หก แต่แพ้ 1-2 ด้วยสองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลัง
การเผชิญหน้าครั้งนี้บาเยิร์นมีความชื่นชมมากกว่า แชมป์บุนเดสลีกาได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ท้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกมาโดยตลอดในฤดูกาลที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังดิ้นรนเพื่อกอบกู้ความรุ่งโรจน์เก่ากลับมาอีกครั้ง หลังจากแยกทางกับอดีตโค้ช อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พวกเขาเพิ่งกลับมาสู่เวทีที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรปหลังจากห่างหายไปนาน นอกจากกลุ่ม A แล้ว ยังมีโคเปนเฮเกนและกาลาตาซาราย – อีกสองสโมสรที่อุดมไปด้วยประเพณีฟุตบอลยุโรป
โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชของบาเยิร์นกล่าวถึงผลการจับฉลากว่า "คู่ต่อสู้ทุกคนนำความท้าทายที่แตกต่างกันมาในแชมเปี้ยนส์ลีก บาเยิร์นจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาด้วยความปรารถนาและความทุ่มเทอย่างมาก กับแมนฯ ยูไนเต็ด, โคเปนเฮเกน และกาลาตาซาราย นี่เป็นกลุ่มที่น่าดึงดูดใจสำหรับการเข้าร่วม" ทีมและแฟนบอล เราแทบจะรอวันที่สนามยุโรปเปิดไม่ไหวแล้ว”
กองหน้า โธมัส มุลเลอร์ รู้สึกตื่นเต้นที่มีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับเอริค เทน ฮาก ซึ่งเป็นโค้ชของทีมสำรองของบาเยิร์น ก่อนที่จะเป็นผู้นำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมทีม คิงสลีย์ โกม็อง พอใจกับผลเสมอโดยคิดว่าบาเยิร์นมีโอกาสผ่านเข้ากลุ่มนี้มาก