Mbappe ช่วยให้ PSG ชนะการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกนัดแรก
Mbappe ทำประตูในนัดที่แปดติดต่อกันให้กับ PSG ในตำแหน่งที่ครอบงำสำหรับรองแชมป์บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้เขายิงไปทั้งหมดแปดประตูคิดเป็น 67% ของประตูของเจ้าบ้าน อัคราฟ ฮาคิมี่ กองหลังเพื่อนสนิทของเอ็มบัปเป้ ก็ทำประตูให้ดอร์ทมุนด์ถล่มปารีสได้เช่นกัน
เปแอสเชเก็บบอล 78% ครึ่งแรกยิงไป 12 ประตูแต่ทำประตูไม่ได้เลย ในครึ่งแรกของครึ่งหลังพวกเขายิงอีกสองครั้งและยิงได้สองประตู ในขณะเดียวกันทีมเยือนไม่ได้สร้างโอกาสสำคัญใดๆ และมักจะเสียบอลอย่างรวดเร็วโดยไม่สามารถส่งข้ามแนวรับได้
แม้จะถูกครอบงำ แต่ PSG ก็ต้องอาศัยสถานการณ์ที่ขัดแย้งในการทำคะแนน นาทีที่ 47 เอ็มบัปเป้โดนนิคลาส ซูเล่ที่แขน ขณะที่กองกลางกำลังลดน้ำหนักและเตรียมวางมือลงบนพื้น ผู้ตัดสิน กิล มานซาโน มอบจุดโทษให้ทีมเจ้าบ้านทันที และ VAR ไม่ได้เปลี่ยนการตัดสินใจนี้ แม้ว่าทีมเยือนจะตอบว่าระยะห่างระหว่างผู้เล่นทั้งสองอยู่ใกล้เกินไปสำหรับซูเลที่จะมีเวลาตอบโต้
เอ็มบัปเป้เองก็ยิงจุดโทษเข้ามุมซ้ายล่างทำให้ เกรเกอร์ โคเบล ผู้รักษาประตูล้มไปถูกทางจนไม่มีเวลาสัมผัสบอลด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ โคเบล เจอจุดโทษ 2 ครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ทั้งคู่ดันพลาดลูกยิงของริยาด มาห์เรซ (แมนฯ ซิตี้) และเปโดร กอนซาลเวส (สปอร์ติ้ง ลิสบอน)
ผู้ชม Parc des Princes ส่วนใหญ่ยืนขึ้นและปรบมือเมื่อดาราของพวกเขาทำประตูแรกให้กับทีมในทัวร์นาเมนต์ สำหรับเปแอสเชแล้ว เอ็มบัปเป้คือผู้เล่นที่สำคัญที่สุด และแชมเปี้ยนส์ลีกก็เป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีความหมายที่สุดเช่นกัน
เปแอสเชยิงอีกประตูในอีกเก้านาทีต่อมา คราวนี้มาจากการตีอย่างกะทันหันระหว่างวิตินยาและอัชราฟ ฮาคิมิที่อยู่ตรงกลาง สุดท้ายกองกลางชาวโปรตุเกสก็ยืดตัวให้นักเตะโมร็อกโกจ่ายบอลก่อนจะปัดบอลเข้ามุมไกลเข้าตาข่ายจากระยะใกล้ ฮาคิมิพยายามไม่ฉลองการทำประตูกับทีมเก่าของเขา แต่ยังคงยิ้มเมื่อเพื่อนร่วมทีมมาแบ่งปันความสุข
ถึงแม้ดอร์ทมุนด์จะไม่ได้สร้างโอกาสดีๆ มากมาย แต่ผู้ชมทีมเยือนก็ยังส่งเสียงเชียร์ตลอดเกม ในสนามนักเตะเสื้อเหลืองได้รับใบเหลืองติดต่อกันในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ นั่นคือทั้งหมดที่ทีมของเอดิน แตร์ซิชทำในปารีส