โปรตุเกส ฉายแววผ่านเข้ารอบคัดเลือกยูโรมากที่สุด
ดังนั้น คริสเตียโน โรนัลโด และเพื่อนร่วมทีมจึงได้รับการประเมินว่ามีโอกาส 96% ที่จะผ่านเข้ารอบ พวกเขาเป็นหนึ่งในสี่ทีมที่มีโอกาสผ่านเข้ารอบ 90% สามทีมที่เหลือคือสวิตเซอร์แลนด์ โครเอเชีย และสเปน (ทั้ง 90%)
โปรตุเกสอยู่ในกลุ่ม J ร่วมกับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ไอซ์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก สโลวาเกีย และลิกเตนสไตน์ นี่ถือเป็นกลุ่มเบาที่มีแชมป์ปี 2559 พวกเขาจะพบกับลิกเตนสไตน์ในนัดเปิดสนามในวันที่ 23 มีนาคม จากนั้นจะไปเยือนลักเซมเบิร์กในอีกสามวันต่อมา
Gracenote เป็นบริษัทรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ Nielsen Holdings เป็นเจ้าของ นอกจากโปรตุเกสแล้ว การศึกษารอบคัดเลือกยูโร 2024 ของพวกเขายังแสดงให้เห็นว่าสองทีมชั้นนำจาก 10 กลุ่มและผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ เซอร์เบีย ฝรั่งเศส และสาธารณรัฐเช็ก , อิตาลี, อังกฤษ, ฮังการี, สวีเดน, เวลส์, สโลวีเนีย, นอร์เวย์, โรมาเนีย และบอสเนีย
หากการคาดการณ์นี้ถูกต้อง นอร์เวย์จะเข้าร่วมในยูโรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2000 ด้วยความเป็นผู้นำของกองหน้าที่เล่นให้กับแมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ และกองกลางกัปตันทีมของอาร์เซนอล มาร์ติน โอเดการ์ด
แชมป์เก่าอิตาลีและรองแชมป์อังกฤษมีโอกาสผ่านเข้ารอบ (78%) และ (77%) ตามลำดับเมื่อพวกเขาอยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับยูเครน มอลตา และมาซิโดเนียเหนือ อิตาลีและอังกฤษจะเผชิญหน้ากันในเย็นวันที่ 23 มีนาคม
20 ทีมที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2024 โดยตรงจะตกเป็นของสองทีมชั้นนำในแต่ละกลุ่ม ส่วนที่เหลืออีกสามตำแหน่งจะพิจารณาจากรอบเพลย์ออฟ ทีมชั้นนำในกลุ่ม A, B และ C ได้แก่ เนเธอร์แลนด์, โครเอเชีย, สเปน, อิตาลี, อิสราเอล, บอสเนีย, เซอร์เบีย, สกอตแลนด์, จอร์เจีย, กรีซ, ตุรกี และคาซัคสถาน จะมีสถานที่ลงเล่น เพลย์ออฟหากพวกเขาไม่ชนะตั๋วโดยตรงจากการไปถึงสองอันดับแรกของกลุ่ม
ยูโร 2024 มีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2024 ถึง 14 กรกฎาคม 2024 โดยมีทีมที่เข้ารอบคัดเลือก 23 ทีมและเจ้าภาพเยอรมนีเข้าร่วม