ไทยขอโทษเหตุทะเลาะวิวาทนัดชิงซีเกมส์
"เราต้องขออภัยต่อผู้ชมที่มาชมสนามและแฟนๆ ทั่วโลก" FAT เขียนในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อบ่ายวันที่ 17 พฤษภาคม "เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทีมฟุตบอลไทย"
FAT รู้สึกผิดหวังเมื่อสมาชิกของทีมฝึกสอนพิจารณาว่าเป็นตัวแทนของสหพันธ์พัวพันกับอินโดนีเซีย กทท.จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดว่าใครเป็นผู้ริเริ่มและใครที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ก่อนที่จะมีการลงโทษอย่างหนัก
“จะไม่มีการยอมความหรือมีภูมิคุ้มกันสำหรับใครก็ตามที่กระทำผิด” FAT เน้นย้ำ "คณะกรรมการสอบสวนจะทำงานทันทีที่ทีม U22 กลับบ้าน"
ท้ายประกาศ สมาคมฟุตบอลฯ ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อแฟนบอลไทย คนไทย และผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว กทท.พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้อีกในอนาคต
ดราม่าและคุณภาพระดับมืออาชีพของซีเกมส์ รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 32 ถูกบดบังด้วยการตะลุมบอนระหว่างสองทีมจนจบแมตช์ นาทีที่ 9 ของครึ่งหลัง ไทยตีเสมอ 2-2 จากยศกร
สมาชิกหลายคนวิ่งไปที่เขตเทคนิคของอินโดนีเซียเพื่อฉลองและยั่วยุ ซึ่งนำไปสู่การต่อสู้ครั้งแรก การจับฉลากกันในเวลาราชการทำให้ทั้งสองทีมต้องเล่นต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 91 ทรงชัย ทองแช่ม กองหลังชาวไทย ทำพลาดให้ อิรฟาน เยาฮารี เตะบอลข้ามศีรษะ โสภณวิชญ์ ผู้รักษาประตู สกอร์เพิ่มเป็น 3-2 ในเวลานี้ สมาชิกคนหนึ่งของทีมฝึกซ้อมชาวอินโดนีเซียวิ่งไปที่พื้นที่เทคนิคของไทยเพื่อฉลองการตอบสนอง ซึ่งเป็นการเปิดการต่อสู้ระยะประชิดครั้งที่สอง หัวหน้าคณะผู้แทนอินโดนีเซีย Kombes Sumardji ซึ่งเข้ามาแทรกแซงก็ตกเป็นเหยื่อของการเฆี่ยนตีเช่นกัน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบ 30 นายต้องเข้าแทรกแซงเป็นเวลานานเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย จากนั้นผู้ตัดสินจับใบแดงโดยตรง 3 ใบสำหรับไทยและ 2 ใบสำหรับอินโดนีเซีย รวมถึงผู้รักษาประตูโสภณวิทย์ของไทยและกองกลาง Komang Agung ของอินโดนีเซีย ขณะที่เกมดำเนินต่อไป โจนาธาน เขมดี กองกลาง และ ธีระศักดิ์ โพธิ์พิมาย กองหน้าชาวไทย ได้รับใบเหลืองที่ 2 ตามลำดับ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาโดนไล่ออก
การแข่งขันจบลงด้วยคะแนน 5-2 อินโดนีเซียชนะไทยในตำแหน่ง 10 ต่อ 8 ในการแข่งขันทั้งหมด ผู้ตัดสินต้องจั่วใบแดง 7 ใบและใบเหลือง 17 ใบ